• Aetos Bonus 50000
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่ดัน “บาทสเตเบิลคอยน์” ก.ล.ต.นำร่อง ลงทุนหุ้นกู้บนบล็อกเชน

ดัน “บาทสเตเบิลคอยน์” ก.ล.ต.นำร่อง ลงทุนหุ้นกู้บนบล็อกเชน

แผนยุทธศาสตร์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระหว่างปี 2568-2570 ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการพัฒนาตลาดทุนไทย โดยการนำ Blockchain และ Distributed Ledger Technology (DLT) มาแก้ไขปัญหาหลัก (Pain Points) ที่มีอยู่ในระบบเดิม และสร้างระบบนิเวศดิจิทัลสำหรับตลาดทุน (Digital Securities Ecosystem) ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจุดเด่นสำคัญของแผนนี้ประกอบด้วย:

Pain Points ในตลาดทุนปัจจุบัน

  1. ความซับซ้อนโดยไม่จำเป็น
    • การปรับปรุงระบบเดิมแบบ “ปะผุ” ทำให้เกิดโครงสร้างที่ซับซ้อนโดยไม่ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงใหม่
  2. ฐานข้อมูลไม่เชื่อมโยงกัน
    • ข้อมูลหลายแหล่งมีความแตกต่างกัน (Multiple Versions of Truth)
  3. กระบวนการ Clearing & Settlement ล่าช้า
    • ใช้เวลานาน เช่น การจองซื้อหุ้นกู้ต้องรอ 7-14 วันก่อนซื้อขายในตลาดรอง
  4. การทำงานด้วยระบบ Manual
    • ใช้บุคลากรในหลายกระบวนการ ทำให้เกิดความล่าช้า
  5. ค่าใช้จ่ายจากตัวกลางจำนวนมาก
    • การมีตัวกลางหลายประเภทเพิ่มต้นทุนและระยะเวลาดำเนินการ
  6. ข้อจำกัดในการตรวจสอบย้อนหลัง
    • ฐานข้อมูลที่ยังคงใช้รูปแบบกระดาษสร้างความยุ่งยากในการตรวจสอบ

การแก้ Pain Points ด้วย Blockchain/DLT

  1. Digital Twin
    • โคลนนิ่งหลักทรัพย์แบบดั้งเดิม (หุ้น, หุ้นกู้, หน่วยลงทุน) ให้เป็น Token เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
    • ตัวอย่าง: หุ้นกู้แบบ OTC สามารถขายใน Blockchain โดยแบ่งเป็นหน่วยย่อย ๆ เช่น หน่วยละ 1 บาท
  2. Digital Native
    • ออกหลักทรัพย์ดิจิทัลตั้งแต่ต้น โดยหลักทรัพย์ทั้งหมดจะอยู่ใน Blockchain
    • ต้องมีการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เพื่อรองรับการออกหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์
  3. กระบวนการ Settlement ทันที (Atomic Settlement)
    • ไม่ต้องรอ T+2 หรือ 7-14 วัน ทุกธุรกรรมซื้อขายจะเกิดขึ้นทันทีในรูปแบบ “เงินมาของไป”
  4. ลดต้นทุนและเพิ่มความโปร่งใส
    • การใช้ Blockchain ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับตัวกลางและกระบวนการ Manual
    • ข้อมูลธุรกรรมและการชำระราคาเป็นเรียลไทม์ เพิ่มความโปร่งใส
  5. รองรับ Stablecoin
    • ใช้ Stablecoin ที่มีการ Tokenise เป็น Baht-backed Stablecoin ภายใต้การกำกับของ ธปท. ในการชำระเงินบน Blockchain

ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น

  • ประสิทธิภาพสูงขึ้น: กระบวนการตลาดทุนดิจิทัล 100% จะช่วยลดต้นทุนและเวลา
  • เพิ่มสภาพคล่อง: การแปลงสินทรัพย์ดั้งเดิมเป็น Token ช่วยให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้
  • รองรับพฤติกรรมใหม่: ผู้ลงทุนจะคุ้นชินกับการซื้อขายแบบดิจิทัล เช่นเดียวกับการเปลี่ยนผ่านสู่ Mobile Banking

เป้าหมายระยะยาว

  • การผลักดันตลาดทุนไทยให้กลายเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล
  • สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมสำหรับการออกหลักทรัพย์และการซื้อขายในโลกดิจิทัล
  • สนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศ Stablecoin ให้สอดคล้องกับการกำกับดูแล

แผนยุทธศาสตร์นี้ถือเป็นการพลิกโฉมตลาดทุนไทยจากระบบแบบเดิมที่มีข้อจำกัดหลายประการ มุ่งเน้นการใช้ Blockchain เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างโอกาสใหม่ให้กับผู้ลงทุนทุกระดับ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต.

คลิก

Cr.ประชาชาติธุรกิจ

———————————————————-

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo

REVIEW OVERVIEW

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_imgspot_imgspot_imgspot_img
[td_block_1 custom_title="Review Brokers" limit="4" f_header_font_transform="uppercase" ajax_pagination="next_prev" m4_el="10" category_id="101" sort="oldest_posts"][td_block_1 custom_title="Last Post" limit="4" f_header_font_transform="uppercase" ajax_pagination="next_prev" m4_el="10"]