ปี 2025 ถูกจับตามองว่าเป็น “ปีแห่งสงครามไซเบอร์ของอุตสาหกรรมคริปโต” หลังรายงานล่าสุดชี้ว่า กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับ เกาหลีเหนือ (DPRK) ยกระดับปฏิบัติการโจมตีแพลตฟอร์มคริปโตอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นกลุ่มที่สร้างความเสียหายสูงสุดเท่าที่เคยมีมา
ข้อมูลจาก Chainalysis ระบุว่า ในช่วง ครึ่งแรกของปี 2025 กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่โยงกับ DPRK ขโมยคริปโตไปแล้ว มากกว่า 2.17 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่เพียงแซงยอดรวมทั้งปี 2024 แต่ยังเป็นตัวเลข year-to-date ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์วงการคริปโต
“คดี Bybit” ไฮไลต์ใหญ่สุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เหตุการณ์ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนสูงสุดคือการโจมตีแพลตฟอร์ม Bybit เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2025 ส่งผลให้ Ethereum ถูกขโมยไปคิดเป็นมูลค่าราว 1.5 พันล้านดอลลาร์ และถูกจัดให้เป็น การโจรกรรมคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
หน่วยงาน FBI ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ปฏิบัติการดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือ และใช้รหัสปฏิบัติการว่า “TraderTraitor”
นอกจากนี้ ยังมีเหตุโจมตีอื่น ๆ ที่ถูกเชื่อมโยงในทิศทางเดียวกัน เช่น กรณีของ Upbit ที่มีรายงานความเสียหายราว 37 ล้านดอลลาร์
ทำไมเกาหลีเหนือ “ต้องขโมยคริปโต”?
Chainalysis ชี้ว่า แรงจูงใจหลักมาจากความจำเป็นในการระดมเงินเข้าสู่รัฐ เพื่อสนับสนุน โครงการยุทโธปกรณ์และนิวเคลียร์ ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศที่เข้มข้นขึ้น
ภายใต้ข้อจำกัดของระบบการเงินโลก คริปโตจึงกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญ ที่รัฐสามารถใช้หลบเลี่ยงการควบคุมแบบดั้งเดิมได้
เทคนิคใหม่ปี 2025: ซัพพลายเชน + แฝงตัวเป็นพนักงาน IT
รายงานระบุว่า ปฏิบัติการของ DPRK ในปีนี้มีความ ซับซ้อนและดุดันกว่าเดิมอย่างชัดเจน โดยใช้วิธีการใหม่ ๆ เช่น
-
โจมตีซัพพลายเชน (Supply-Chain Attacks) ผ่านผู้ให้บริการบุคคลที่สามและผู้ดูแลทรัพย์สิน (Custodians)
-
แฝงตัวเป็นพนักงาน IT ด้วยตัวตนปลอม แทรกซึมเข้าไปทำงานในบริษัทสาย AI, บล็อกเชน และอุตสาหกรรมกลาโหม เพื่อเข้าถึงระบบและทรัพย์สินคริปโตจากภายใน
เส้นทางฟอกเงิน “หลายชั้น–เร็วขึ้น–ตามยาก”
อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้การติดตามยากขึ้น คือรูปแบบการฟอกเงินที่ใช้ หลายช่องทางพร้อมกัน และดำเนินการอย่างรวดเร็ว ได้แก่
-
Mixing services
-
OTC brokers
-
Chain-hopping
-
Token swaps
-
DEX และ bridge protocols
Chainalysis ระบุว่า จุดเด่นของปฏิบัติการยุคใหม่คือการ กระจายฟอกเงินขนาดใหญ่ในหลายเส้นทางพร้อมกัน เพื่อกลบรอยธุรกรรมให้เสร็จก่อนที่หน่วยงานกำกับหรือแพลตฟอร์มจะสกัดได้ทัน
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า AI อาจยิ่งเพิ่มความได้เปรียบให้ DPRK ทั้งในการสร้าง persona ปลอมที่แนบเนียนขึ้น และการทำให้กระบวนการฟอกเงิน อัตโนมัติและเร็วกว่าเดิม
“คว่ำบาตรอย่างเดียวไม่พอ” ต้องผนึกกำลังทั้งอุตสาหกรรม
Andrew Fierman หัวหน้าทีมข่าวกรองด้านความมั่นคงแห่งชาติของ Chainalysis ให้ความเห็นว่า
“มาตรการคว่ำบาตรเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอจะหยุด DPRK เพราะพวกเขาจะหาช่องทางใหม่อยู่เสมอ และมีเครือข่ายที่ฝังตัวข้ามเขตอำนาจจำนวนมาก”
แนวทางป้องกันที่พอช่วยลดความเสี่ยงได้ในเชิงปฏิบัติ ได้แก่
-
การทำ Due Diligence เข้มข้นขึ้น
-
บังคับ สัมภาษณ์วิดีโอและตรวจสอบตัวตนอย่างละเอียด
-
เฝ้าระวัง IP และ Geolocation
-
จำกัดวิธีการชำระเงินที่ตรวจสอบยากในบางบริบท
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความร่วมมือและการแชร์ข่าวกรองแบบเรียลไทม์ ระหว่างแพลตฟอร์ม ภาคเอกชน และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เพื่อปิดช่องโหว่ให้ได้ก่อนที่เงินจะถูกฟอกจนตามไม่ทัน
—————————————————–
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you



