สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอจาก BlackRock ยักษ์ใหญ่ด้านการเงินระดับโลก ที่ต้องการผนวก “ระบบ Staking” เข้ากับกองทุน iShares Ethereum Trust ซึ่งเป็น Ethereum ETF ของบริษัท นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่แนวคิดการรวมระบบสร้างผลตอบแทนแบบ passive income ผ่าน staking ถูกเสนอในกรอบของกองทุน ETF อย่างเป็นทางการ

การยื่นเอกสารล่าสุดต่อ SEC มีเป้าหมายเพื่อขอเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนดังกล่าว โดยจะเปิดโอกาสให้นำเหรียญ ETH ที่ถืออยู่ภายในกองทุนไปเข้าร่วมในระบบ staking บนเครือข่าย Ethereum เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมจากรางวัลที่ได้รับ เป็นความเคลื่อนไหวที่สะท้อนถึงพัฒนาการด้านโครงสร้างผลิตภัณฑ์การลงทุนในคริปโตอย่างชัดเจน

ก่อนหน้านี้ Nasdaq ได้ยื่นคำขอในลักษณะเดียวกัน และสะท้อนแนวทางเดียวกับผู้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลรายอื่นอย่าง 21Shares และ Grayscale ที่ต่างเริ่มผลักดันให้ staking กลายเป็นส่วนหนึ่งของ ETF เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยลงทุน

ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลัง SEC โดยแผนก Division of Corporation Finance ส่งสัญญาณเชิงบวกในเดือนพฤษภาคมว่า “กิจกรรม staking บางประเภทอาจไม่ถือเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์” ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการเปิดทางให้ staking ถูกรวมอยู่ในผลิตภัณฑ์ ETF ได้ในอนาคต

อย่างไรก็ดี ภายใต้ยุคของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน แม้ SEC ได้อนุมัติ Spot Bitcoin และ Ethereum ETF หลังคำพิพากษาสำคัญของศาล แต่ยังไม่เคยอนุญาตให้มีการรวม staking เข้ากับกองทุนเหล่านั้นมาก่อน

ขณะเดียวกัน บริษัท Rex Shares และ Osprey Funds ได้เดินเกมเร็วกว่าด้วยการเปิดตัว “Staked Crypto ETF” รายแรกของสหรัฐฯ ไปแล้วเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งไม่ผ่านกระบวนการของ SEC แบบดั้งเดิม แต่ใช้ช่องทางการกำกับดูแลอื่น ถือเป็นก้าวสำคัญของตลาดและแรงกดดันเชิงบวกต่อ SEC

นอกจากนี้ SEC ยังได้ประกาศเลื่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับข้อเสนอของ Grayscale ในการเปิด Litecoin ETF ออกไปเป็นวันที่ 10 ตุลาคม และยังมีอีกหลายกองทุนคริปโตที่อยู่ระหว่างการพิจารณาภายใต้บรรยากาศทางกฎหมายที่ดูผ่อนคลายและเป็นมิตรมากขึ้นนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ในวันเดียวกัน SEC ยังมีมติอนุมัติคำสั่งสำคัญให้สามารถ “สร้างและไถ่ถอน” กองทุนคริปโตแบบ In-Kind ได้โดยตรง ซึ่งเป็นกลไกใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการกองทุน ETF คริปโต

หากการขอรวมระบบ staking เข้ากับ Ethereum ETF ของ BlackRock ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการในอนาคต อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมคริปโต โดยจะเปิดทางให้เกิดกองทุนรูปแบบใหม่ที่ไม่เพียงแค่สะท้อนราคาตลาดของเหรียญ แต่ยังสามารถสร้างรายได้แบบต่อเนื่องให้กับนักลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ เป็นการยกระดับบทบาทของ ETF จากเครื่องมือสะท้อนมูลค่า ไปสู่สินทรัพย์ที่ “สร้างมูลค่า” ได้ในตัวเอง

คลิก

Cr.theblock

—————————————————–

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you