บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS) ประเมินแนวโน้มธุรกิจกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ในช่วง 12 เดือนข้างหน้ายังคงเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง จากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า ภาวะเศรษฐกิจและการเมืองไทย ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต

TRIS คาดว่ารายได้และกำไรของ บล. ในปีนี้จะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ยังพึ่งพาปริมาณการซื้อขาย ขณะที่ไตรมาสแรกของปี 2568 (1/68) รายได้ค่าธรรมเนียมซื้อขายลดลง 3% แม้จะดีกว่าคาด แต่ภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยบวกหนุน

ในปี 2567 ค่าธรรมเนียมซื้อขายลดลง 11% ตามปริมาณซื้อขายเฉลี่ยรายวันที่ลดลงเหลือ 45,000 ล้านบาทต่อวัน จาก 51,000 ล้านบาทในปี 2566 โดยข้อมูลล่าสุดของเดือนพฤษภาคมปีนี้ อยู่ที่ 43,000 ล้านบาทต่อวัน

อย่างไรก็ตาม บล. ที่มีการกระจายรายได้ไม่พึ่งค่าธรรมเนียมซื้อขายเพียงอย่างเดียว ยังพอประคองผลประกอบการได้ดี โดยรายได้จากธุรกิจตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุนเติบโตโดดเด่นถึง 52% ในปี 2567 และอีก 30% ในไตรมาส 1/68 ทำให้สัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 9% ของรายได้รวม จาก 4% ในปี 2565 โดยเฉพาะ ETF ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมและคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในอนาคต

ขณะที่รายได้จากกองทุนรวมประเภท Thai ESGX ยังมีผลบวกไม่มากนัก เนื่องจากสิทธิลดหย่อนภาษีไม่จูงใจพอ ประกอบกับข้อกำหนดการถือครองนานถึง 5 ปี

สำหรับธุรกิจให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin loan) และธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) คาดว่ายังไม่ฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง โดยรายได้รวมจาก 2 ธุรกิจนี้ลดลงจาก 18-20% ของรายได้รวมในอดีต เหลือเพียง 13% หลังปี 2567 บาง บล. เร่งขยายสินเชื่อ Margin loan จนต้องตั้งสำรองสูง เมื่อมูลค่าหลักประกันลดลงตามตลาดหุ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรม บล. ขาดทุนสุทธิ 2.87 พันล้านบาทในปี 2567 เทียบกับกำไร 3.76 พันล้านบาทในปีก่อนหน้า

ในไตรมาส 1/68 แม้ผลขาดทุนด้านเครดิตกลับมาอยู่ระดับปกติ แต่กำไรสุทธิกลุ่ม บล. ก็ลดลงถึง 36% เหลือ 920 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมลดลง 8% จากรายได้ลงทุนที่หดตัวลงถึง 34% เนื่องจากขาดทุนจากการลงทุนในหุ้นถึง 3.9 พันล้านบาท ตามภาวะตลาด SET ที่อ่อนตัวตั้งแต่ต้นปี

ด้านธุรกิจ IB แม้ บล. รายใหญ่ที่มีทีมงานเชี่ยวชาญยังพอรักษารายได้ได้จากการให้คำปรึกษาและปรับโครงสร้างธุรกิจ แต่ภาพรวมยังซบเซา โดยรายได้ IB ปี 2567 ลดลง 24% และอีก 17% ในไตรมาส 1/68 จากภาวะตลาดทุนอ่อนแอ

TRIS ยังเตือนถึงปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ บล. ต้องเผชิญในปีนี้ ได้แก่

• ความเสี่ยงด้านตลาด (Market Risk) จากมูลค่าหลักทรัพย์ที่ถือครอง

• ความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk) โดยเฉพาะลูกค้า Margin loan ที่อาจผิดนัด

• ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ (Operational Risk) จากข้อผิดพลาดในการแนะนำการลงทุน ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกลงโทษหรือเสียความเชื่อมั่น

• ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ (Regulatory Risk) จากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ที่เพิ่มภาระต้นทุนและอาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน

คลิก

Cr.สำนักข่าวอินโฟเควสท์

—————————————————–

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo