แม้ต้นทุนการขุด Bitcoin จะเพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์ Halving และราคายังผันผวนจากปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองโลก แต่บริษัทเหมืองรายใหญ่ในสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเสริมกำลังการผลิตและสะสม BTC อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นในอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลเบอร์หนึ่งของโลก
ความยากการขุดลดลงเล็กน้อย – แต่เครือข่ายแข็งแกร่ง
ระดับความยากในการขุด (Difficulty) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สู่ระดับประมาณ 126.4 ล้านล้าน หลังจากแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 126.9 ล้านล้านเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ตามข้อมูลจาก CryptoQuant อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ย Hashrate ของเครือข่าย Bitcoin กลับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 ZH/s (zettahash ต่อวินาที) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในช่วงเดือนพฤษภาคม สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายและการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในหมู่นักขุด
MARA ขุด BTC สูงสุดในกลุ่ม – ถือครองสะสมกว่า 17,800 เหรียญ
ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม TheMinerMag ระบุว่า Marathon Digital (MARA) คือบริษัทเหมืองที่ขุด BTC ได้มากที่สุดในเดือนพฤษภาคม โดยผลิตได้ถึง 956 BTC และมียอดสะสมในคลังรวมสูงถึง 17,857 BTC แม้จะมีการขายบางส่วนหลังเหตุการณ์ Halving แต่ MARA ยังคงครองตำแหน่งบริษัทที่ถือ BTC มากที่สุดในกลุ่มที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ
CleanSpark เร่งขยาย Hashrate – ผลิตเพิ่มขึ้น 9%
ด้าน CleanSpark (CLSK) โชว์การเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤษภาคมมีกำลังขุดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 45.6 EH/s ส่งผลให้สามารถผลิต BTC ได้ถึง 417.2 เหรียญ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ยอดสะสม BTC อยู่ที่ 6,154 เหรียญ ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในกลุ่มนักขุดสหรัฐฯ
กลยุทธ์ใหม่: จาก “ขุดแล้วขาย” เป็น “ขุดแล้วถือ”
บทวิเคราะห์จาก TheMinerMag ชี้ว่า บริษัทเหมืองรายใหญ่กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์จากเดิมที่ “ขาย BTC ทันทีหลังขุด” มาเป็น “สะสมไว้ในงบดุล” เช่นเดียวกับบริษัทลงทุนขนาดใหญ่ แนวโน้มใหม่นี้สะท้อนถึง การมอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์คลัง (treasury asset) ที่มีศักยภาพในระยะยาว ทั้งยังสะท้อนการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจเหมืองไปสู่การบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบมืออาชีพมากขึ้น
แนวโน้มต่อไป
แม้ต้นทุนการดำเนินงานยังคงสูงและความไม่แน่นอนของราคายังมีอยู่ แต่ทิศทางของบริษัทเหมืองรายใหญ่กำลังส่งสัญญาณชัดว่า ความเชื่อมั่นต่อ Bitcoin ในระยะยาวยังแข็งแกร่ง และการถือครอง BTC เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สร้างความมั่นคงให้กับองค์กรในโลกยุคดิจิทัล